ขึ้นวันที่สองเท่านั้นก็มีประเด็นวิวาทะกันแล้ว ประเด็นเรื่องความจงรักภักดีนั้นเอามาเล่นพร่ำเพรื่อไม่ได้หรอกครับ นอกจากมันจะเป็นหอกแหลมทิ่มแทงคนอื่นแล้วมันจะย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเองด้วยเช่นกัน
เรื่องชุดดำก็เหมือนกัน คนหาเช้ากินค่ำในบ้านเมืองมีมากมาย เขาไม่มีเงินซื้อ หรือไม่มีเวลาเข้ามาซื้อเสื้อตามย่านที่มีขาย ชุดดำนั้นไม่ได้มีขายทั่วไป บางคนเขาต้องทำงานทุกวันไม่ได้หยุดงานเพื่อมาซื้อชุดดำใส่ บางคนทำงานโรงงานต้องรอเงินรายสัปดาห์ออกถึงจะเจียดเงินมาซื้อใส่ได้ เราจะไปมองเขาว่าไม่ดีไม่ได้ ผมเห็นป้าขายอาหารตามสั่งใส่เสื้อสียืนผัดอาหารไปปาดน้ำตาไปตอนที่ถ่ายทอดขบวนเสด็จ และอีกอย่างคือบางคนจนแต่ตัวแต่น้ำใจไม่จนตามฐานะ ใส่เสื้อสีที่สุภาพที่สุดเท่าที่ตัวเองมีอยู่ ค่ารถที่พวกเขาใช้จ่ายเพื่อมาส่งเสด็จนั่นคืออาหารสองมื้อของเขาก็เป็นไปได้ แล้วออกไปรับเสด็จโดยเลือกที่จะนั่งแถวหลังสุด ตอนก้มลงกราบกับพื้นก็ร้องไห้ไม่ต่างกับคนใส่สีดำ ไปต่อว่าเสื่อเสื้อผ้าให้เขาช้ำใจไปทำไมกัน
เรื่องภาพโปรไฟล์สีขาวดำหรือภาพคัพเวอร์ก็เช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะทำกันเป็นทุกคน ใครทำเป็นก็ใช้กันไป ใครทำไม่เป็นก็ยังคงภาพสีกันอยู่ หรือไม่ก็ก็อบปี้คนอื่นเปลี่ยนเป็นดำทั้งภาพไปเลย บางคนมีเฟสบุคเพื่ออ่านข่าวแต่ไม่เคยอัพสเตตัสเลยก็มีมากมาย ดังนั้นเรื่องนี้อย่าไปเอามาเป็นจุดที่จะถล่มใครเลยน่าจะดีกว่า ถ้าหวังดีจริงก็ถามเขาว่าทำเป็นหรือเปล่าจะช่วยทำภาพขาวดำให้เอาไหม แบบน่าจะดีกว่าไปตั้งป้อมด่าเขา
เรื่องประเด็นอัพภาพในสเตัสเป็นรูปใส่แว่นดำหรือถือร่มใส่หมวกในบรรยากาศวันส่งเสด็จก็เช่นกัน ไปว่าพวกเขาทำไม ส่งเสด็จเพียงไม่ถึงสิบนาที แต่ทั้งวันพวกเขาต้องอยู่กลางแดดนั่งรอขบวน ไม่กางร่มใส่แว่นดำรอตั้งแต่ตอนสายจนถึงเย็นพวกเขาอยู่กันไม่ได้หรอก พอขบวนจะมาพวกเขาก็หุบร่มถอดแว่นใส่ถอดหมวกตามที่ขอร้องกัน พอถอดแว่นตาแต่ละคนบวมปูดเพราะร้องไห้มาตลอดวัน ผมเองก็ตาบวมมาสองวันแล้วผมเข้าใจเรื่องนี้ดี
คิดดีทำดีถวายพระองค์ท่านกันดีกว่าครับ อย่าเล่นสงครามปากกันด้วยเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย